ประเพณีท้องถิ่นภาคใต้
- ประเพณีเปลี่ยนผ้าพระสามองค์
พระสามองค์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของอำเภอเทพา สร้างขึ้นเมื่อใดไม่มีพยานหลักฐานปราฏแน่ชัด แต่มีผู้เฒ่าผู้แก่ยืนยันว่า เมื่อจำความได้ก็เห็นพระสามองค์อยู่คู่กับวัดแล้ว นามพระสามองค์ องค์ขวามือ คือ “จังหัน” องค์กลาง คือ “แก่นจันทร์” องค์ซ้ายมือ คือ “เกสร” ประดิษฐานอยู่ ณ วัดเทพาไพโรจน์ หมู่ที่ 4 ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
พระสามองค์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาตั้งแต่โบราณกาล ในเดือนเมษายนของทุกปี ประชาชนชาวอำเภอเทพา และอำเภอใกล้เคียงจะร่วมกันทรงน้ำและเปลี่ยนผ้าให้พระสามองค์เป็นประจำ จนกลายเป็นประเพณี ซึ่งเรียกว่า “ประเพณีเปลี่ยนผ้าพระสามองค์” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 เมษายน ของทุกปี
-ประเพณีรับเทียมดา
ประเพณีรับเทียมดา เป็นประเพณีที่ชาวบ้านมีความเชื่อว่า ในหมู่บ้านจะมีเทวดามาคุ้มครองรักษาชาวบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำมาหากินได้คล่อง โดยเชื่อว่าเทวดาที่มาอยู่คุ้มครองจะกลับไปในวันขึ้นปีใหม่ไทย (13 เมษายน) และเทวดาองค์ใหม่ก็จะมาอยู่คุ้มครองรักษาต่อจากเทวดาองค์เก่า ชาวบ้านจึงได้จัดพิธีรับ-ส่งเทวดา ขึ้นในวันดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เรียกว่า “ประเพณีรับเทวดา” เพื่อแสดงความความกตัญญูกตเวทีต่อเทวดาที่ได้มาคุ้มครอง และความเป็นสิริมงคลในหมู่บ้าน โดยมีความเชื่อว่า บ้านใด ครอบครัวใด ได้มาร่วมพิธีรับเทียมดา ก็จะทำให้บุคคลในครอบครัวนั้นอยู่เย็นเป็นสุข
ประเพณีรับเทียมดา มีอุปกรณ์ในการประกอบพิธี ประกอบด้วย
1. ร้าน สำหรับจัดวางเครื่องบวงสรวงเทวดา ทำด้วยไม่ไผ่สูงประมาณ 1 เมตร ปูด้วยใบตอง
2. เครื่องบวงสรวง ประกอบด้วย ข้าวสุกที่ยังไม่มีใครตักกิน เรียกว่า ข้าวปากหม้อ ปลาย่างทั้งตัว เรียกว่า ปลามีหัวมีหาง น้ำดื่ม เหล้า ดอกไม้ ธูปเทียน โดยจะนำสิ่งเหล่านี้ใส่ภาชนะที่ทำด้วยใบตอง แล้วจัดวางในถาด นำไปวางบนร้านที่ทำพิธี
3. ธง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการรับ-ส่งเทวดา เป็นธงรูปสามเหลี่ยมทำด้วยกระดาษสีขาว จำนวน 2 ธง จะมีรวงข้าว 3 รวง หมากพลู 1 คำ ผูกติดไว้ที่ปลายธง ธงที่ 1 จะเขียนว่า ข้าพเจ้า นาย...นาง....ได้มารับเทียมดาองค์ใหม่แล้ว ส่วนธงที่ 2 จะเขียนว่า ข้าพเจ้า นาย...นาง... ได้มาส่งเทียมดาองค์เก่าแล้ว
ก่อนจะถึงการประกอบพิธีกรรม หนุ่มสาวและเด็กๆ ก็จะสนุกสนานด้วยการตั้งขบวนเดินไปตามแต่ละบ้าน และส่งเสียงร้อง รับเทียมดากันเหย... เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ชาวบ้านเตรียมตัวไปพร้อมกันในสถานที่ประกอบพิธี หลังจากนั้นชาวบ้านก็จะนำถาดที่ใส่เครื่องบวงสรวงมายังสถานที่ประกอบพิธี แล้วบรรจงวางของที่นำมาบวงสรวงลงบนร้านที่ทำไว้ แล้วเริ่มประกอบพิธี โดยผู้นำประกอบพิธีจะนำกล่าวนะโมฯ สามจบ แล้วต่อด้วยบทสวดชุมนุมเทวดา จบแล้วผู้ขับร้องเพลงบอกก็จะขับร้องเพลงเชิญเทวดา เมื่อจบแล้ว ทุกคนก็จะนั่งประนมมือด้วยอาการสงบ รอบๆ ร้าน แล้ว อธิษฐานขอให้เทวดาคุ้มครอง และขอสิ่งที่ปรารถนาแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน และนำธงที่ 1 ที่เป็นธงรับเทียมดา ไปปักไว้ที่หลังคาบ้าน และมีความเชื่อว่าเทวดาได้มาคุ้มครองปกปักษ์รักษาแล้ว ครอบครัวก็จะอยู่เย็นเป็นสุข
- ประเพณีแข่งเรือยาว
ประเพณีแข่งเรือยาวบางกล่ำ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมา เนื่องจากในอดีตพื้นที่อำเภอบางกล่ำ ในพื้นที่ตำบลบางกล่ำ ตำบลแม่ทอม เป็นที่ราบลุ่ม มีลำคลองออกสู่ทะเลสาบหลายสาย เช่น คลองบางกล่ำ คลองท่าเมธุ คลองคูเต่า ประชาชนในพื้นที่แถบนี้จะใช้เรือเป็นพาหนะในการติดต่อไปมาหาสู่ และใช้ขนส่งผลผลิต
การแข่งเรือยาว จะจัดบริเวณท่าน้ำวัดบางหยี หมู่ที่ 4 ตำบลบางกล่ำ อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา โดยระยะแรกจะทำหลังจากออกพรรษา ซึ่งเป็นฤดูฝน มีน้ำหลาก ชาวบ้านที่อาศัยในแถบสายน้ำบางกล่ำ-แหลมโพธิ์จะแข่งเรือยาวขึ้นในวันทอดกฐิน เนื่องจากวันดังกล่าวมีประชาชนมาร่วมทำบุญมากมาย เรือของพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาทอดกฐิน ก็จะเข้าร่วมแข่งขันจนเกิดเป็นประเพณีแข่งเรือยาวขึ้น ต่อมาได้มีการแข่งขันกันในระหว่างหมู่บ้าน ขยายออกไปในอำเภอใกล้เคียง และได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุกปี จนกลายเป็นประเพณีแข่งเรือยาวประจำปี
ปัจจุบันการแข่งขันเรือยาว จะกำหนดแข่งขันเป็นประจำทุกปี โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3ประเภท คือ ประเภท 7 ฝีพาย 9 ฝีพาย และ 12 ฝีพาย และได้เปลี่ยนจากการแข่งขันจากวันทอดกฐิน มาเป็นในวันเสาร์แรกของเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี
-ประเพณีรับ-ส่งตายาย
ประเพณี รับ - ส่งตายาย เป็นประเพณีทำบุญวันสาร์ทในเดือนสิบ เป็นประเพณีที่แสดงออกถึงความกตัญญูอย่างสูงยิ่งต่อบรรพบุรุษ เป็นประเพณีที่ชาวบ้านทุกครอบครัวไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ ล่วงลับไปแล้ว
ช่วงเวลา วันรับตายาย จะตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ในวันนี้ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใด มักเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบกิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะเป็นการกระทำ เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูแล้ว ยังเป็นการพบปะสังสรรค์ระหว่างญาติพี่น้องอีกด้วย ชาวบ้านทุกครอบครัวจะจัดอาหารคาวหวาน ดอกไม้ธูปเทียน ไปทำบุญที่วัด
วันส่งตายาย จะตรงกับวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ซึ่งการทำบุญวันส่งตายายจึงมีความสำคัญพอกัน แต่ในวันส่งตายายจะจัดเตรียมอาหารคาวหวาน ต่าง ๆ เป็นพิเศษ พร้อมของใช้ในครัวเรือน เชื่อว่า จัดเตรียมให้ตายายนำกลับไปใช้พิธีกรรม
มีการทำบุญตักบาตรตั้งแต่ตอนเช้า นำอาหารถวายพระ ใส่บาตร แล้ว ยังนำไปวางบนร้าน เรียกว่า ร้านเปรตซึ่งสร้างยกพื้นขึ้นมากลางลานวัด เพื่อให้ชาวบ้าน และเด็ก ๆ เข้าแย่งอาหารหรือชิงเปรตกัน
ขนมตายายที่มักทำกันในเดือน ๑๐ ได้แก่ ขนมลา ขนมกรุบ ขนมจู้จุน ขนมบ้า ขนมไข่ปลา ยาหนม ขนมพอง ต้ม และผลไม้ต่าง ๆ แล้วแต่ละท้องที่หลังจากทำบุญตอนเช้าเสร็จแล้วก็จะมีการบังสกุลบรรพบุรุษ บางท้องที่จะทำตอนเย็นเป็นอันเสร็จพิธี
* ความสำคัญ
วันรับส่ง - ตายาย เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในครอบครัว ทั้งที่อยู่ใกล้และอยู่ไกล นอกจากนี้เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
-ประเพณีทำบุญทวดช้าง
ประเพณีทำบุญพ่อทวดช้าง เป็นประเพณีที่กระทำกันทุกปี โดยพ่อทวดช้าง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา มีการสร้างศาลาเพื่อประดิษฐานจำลองพ่อทวดช้าง และควาญช้างไว้เพื่อเป็นที่เคารพสักการะบูชา พ่อทวดช้างมีอภิหารหลายอย่างปรากฏให้คนในหมู่บ้านเขารูปช้างพบเห็น คนในหมู่บ้านจึงมีความเชื่อและความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อทวดช้างเป็นอย่างยิ่ง และมีการทำบุญประจำปีกันทุกปี โดยจะทำหลังจากทำบุญเดือน 5 (สงกรานต์) ที่วัดเกาะถ้ำเสร็จแล้ว ภายใน 1-7 วัน ชาวบ้านในพื้นที่หน้าทวดช้าง จะนัดแนะเพื่อร่วมทำบุญทวดช้าง และบุญเจดีย์ที่ตั้งอยู่หน้าทวดช้าง มักนิยมทำกันที่ใต้ต้นใหญ่ หรือเชิงเขาหน้าทวด เดิมจะทำกันที่บริเวณหน้าส่วนเจ้ากล้อง (หน้าสระน้ำมหาวิทยาลัยทักษิณ) แต่ภายหลังที่ดินถูกเวนคืน เพื่อสร้างเป็นมหาวิทยาลัยทักษิณ ในปี 2511 จึงกลับมาทำที่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณบ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 2 ซอยมิตรสัมพันธ์ (ปากทางเขารูปช้างเดิม)
พิธีการดั้งเดิม ผู้ที่อาศัยอยู่ในระแวกนั้น หรือผู้ที่ให้ความเคารพนับถือทวดช้างออกเรี่ยไรข้าวสารเงินทองมาทำขนมจีน เพื่อทำพิธีเลี้ยงพระในตอนเช้าและฉันเพล โดยนิมนต์พระสงฆ์ 7-9 รูปมาทำพิธี แต่ปัจจุบันนิยมนำข้าวหม้อแกงหม้อ มาร่วมทำบุญเลี้ยงพระในตอนพระฉันเพล ส่วนเจ้าภาพซึ่งรับเป็นเจ้าภาพในการทำบุญพ่อทวดช้างและบุญเจดีย์จะทำขนมจีน เนื่องจากขนมจีนจำเป็นต้องมีเพราะคนเฒ่าคนแก่ สั่งสอนไว้ว่า การเลี้ยงขนมจีนจะทำให้มีเส้นมีสายโยงใยกันแยกกันไม่ขาดเหมือนญาติมิตร หลังจากเสร็จพิธีทางสงฆ์ ก็จะร่วมรับประทานอาหารและทำพิธีรดน้ำคนเฒ่าคนแก่ แจกเสื้อผ้า คนเฒ่าคนแก่จะให้พรลูกหลานที่ไปร่วมงาน ไม่ว่าลูกหลานจะอยู่จังหวัดใด ส่วนใหญ่เมื่อถึงกำหนดทำบุญทวดช้าง บุญเจดีย์ ต่างก็จะกลับมาทำบุญดังกล่าว เพราะถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้าน สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมือง เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวของคนทั้งตำบล และของผู้คนทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่แทบทุกปีจะมีหนังตะลุงเล่นในคืนก่อนวันทำบุญ ซึ่งบางครั้ง ก็จะจัดรับเทียมดาเสร็จแล้วมีหนังตะลุงแสดง รุ่งเช้าทำบุญทวดช้าง บุญเจดีย์ ซึ่งได้สืบทอดกันมา
การที่ยึดเอาการทำบุญวัดเกาะถ้ำเป็นเกณฑ์ ก็เนื่องจากบรรพบุรุษส่วนใหญ่จะอยู่ที่นั้น หลังจากบังสุกุลกระดูกบรรพบุรุษแล้ว จึงมาทำบุญประเพณีตลอดมา
ปัจจุบันประเพณีทำบุญพ่อทวดช้างจะจัดขึ้นทุกปี ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา โดยจะจัดขึ้นพร้อม ๆ กับ งานวัฒนธรรมสัมพันธ์ ประมาณเดือนสิงหาคม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น